เอ็น-โบรโมซักซินิไมด์มีประโยชน์มาก เนื่องจากช่วยให้นักวิทยาศาสสามารถดำเนินการปฏิกิริยาเฉพาะในห้องปฏิบัติการได้ การใช้งานที่พบบ่อยที่สุดคือการเติมอะตอมของโบรีนเข้าไปในโมเลกุลอื่น ซึ่งสามารถเปลี่ยนคุณสมบัติของสารและก่อให้เกิดสารประกอบใหม่ กระบวนการนี้ที่เรารู้จักกันในชื่อ 'โบรไมเนชัน' (bromination) ถูกนำมาใช้ในการผลิตสารเคมีบางชนิดที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา
สุรุ โครงสร้างของเอ็น-โบรโมซักซิไนมายด์ (N-bromo succinimide) มีคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้มันมีประโยชน์ต่อปฏิกิริยาบางประเภท มันปรากฏในรูปของผงสีขาวหรือขาวอมเหลืองเล็กน้อย และสามารถละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น อะซีโตไนตรัยล์ หรือคลอโรฟอร์ม ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสสามารถผสมเข้ากับสารเคมีอื่น ๆ เพื่อสร้างสารประกอบใหม่ นอกจากนี้ เอ็น-โบรโมซักซินิไมด์ยังมีความเสถียรสูงมาก และสามารถเก็บรักษาไว้เป็นเวลานานโดยไม่เสียประสิทธิภาพ
ในห้องปฏิบัติการ นักเคมีใช้สารนี้ในการเติมโบรีนเข้าไปยังโมเลกุลบางชนิด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถควบคุมส่วนของโมเลกุลที่จะเติมอะตอมของโบรีนเข้าไปได้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างสารเคมีที่ซับซ้อน รวมถึงสารที่ใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่นๆ
โครงสร้างทางเคมีที่มีลักษณะเด่นของเอ็น-โบรโมซัคซินิไมด์ (N-Bromosuccinimide) ซึ่งเป็นสารซัคซินิไมด์ที่มีหมู่แทนที่โบรโมที่เชื่อมต่อกับคาร์บอนหนึ่งอะตอม โครงสร้างพิเศษนี้เองที่ทำให้เอ็น-โบรโมซัคซินิไมด์สามารถทำปฏิกิริยาได้อย่างรวดเร็วกับโมเลกุลอื่นในลักษณะเฉพาะ จึงเป็นเครื่องมือที่มีค่ามากสำหรับนักเคมี
แม้ว่าเอ็น-โบรโมซัคซินิไมด์จะมีประโยชน์มาก แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งาน เนื่องจากเป็นสารที่เป็นอันตราย อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดวงตา และระบบทางเดินหายใจเมื่อสัมผัสโดยตรง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องสวมถุงมือ แว่นตา และหน้ากากอนามัยขณะใช้งานสารชนิดนี้
เอ็น-โบรโมซัคซินิไมด์ยังสามารถเกิดปฏิกิริยาได้อย่างรุนแรงกับสารบางชนิด ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งานอย่างปลอดภัย และไม่ควรผสมสารที่ไม่เข้ากันเข้าด้วยกัน การระบายอากาศให้ดีและการจัดการของเสียอย่างเหมาะสม คือองค์ประกอบสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในห้องทดลองที่ใช้สารู โครงสร้างของ N-bromosuccinimide .
มีหลายวิธีที่นักเคมีใช้ในการเตรียมสารู n โบรมิโนซักซิไนม์ NBS ในห้องปฏิบัติการ วิธีการหนึ่งที่นิยมคือการให้ซักซินิไมด์ทำปฏิกิริยากับกรดไฮโดรโบรมิกในสภาพที่มีตัวเร่งปฏิกิริยา วิธีนี้ช่วยให้นักวิทยาศาสสามารถผลิตเอ็น-โบรโมซักซินิไมด์จากวัตถุดิบพื้นฐานได้