ฟรีรัดดิคัลบิวรมีเนชัน = ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อโมเลกุลทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของโบรมีนจนเกิดฟรีรัดดิคัล ฟรีรัดดิคัลนั้นสามารถทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของโบรมีนอีกตัวอย่างเช่น เพื่อเพิ่มอะตอมโบรมีนอีกตัวของไดฮาโลเจนอัลเคนเข้าไปที่พันธะ C=C Suru n โบรโม ซักซินิไมด์ มีความสำคัญต่อเคมีอินทรีย์ เนื่องจากหมายความว่านักเคมีสามารถสร้างสารประกอบใหม่ ๆ และศึกษาว่าโมเลกุลต่าง ๆ มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกันอย่างไร
อนุมูลอิสระมีความว่องไวสูง มันจึงสามารถจับตัวกับโมเลกุลอื่นได้ง่าย ในปฏิกิริยาโบรมิเนชัน อนุมูลอิสระสามารถจับตัวกับสารอินทรีย์หลายชนิดและสร้างสารประกอบที่หลากหลาย ความว่องไวนี้ทำให้นักเคมีสามารถสร้างโมเลกุลใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษตามที่ต้องการได้
การบรมีเนชัน ปฏิกิริยาบรมีเนชันแบบเรเดียลเป็นกระบวนการที่สำคัญในเคมีอินทรีย์สังเคราะห์ ซึ่งนักเคมีสร้างโมเลกุลที่ซับซ้อนขึ้นจากสารตั้งต้นที่ง่ายกว่า ผ่าน Suru โบรโมซักซินิไมด์ , นักเคมีสามารถเติมอะตอมของบรมีนลงในโมเลกุลได้อย่างมีเป้าหมาย เพื่อช่วยให้พวกเขาสร้างสารประกอบใหม่ที่มีคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพเฉพาะทางได้ กระบวนการนี้มีการประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่การค้นคว้าพัฒนายาใหม่ วิทยาศาสตร์วัสดุ ไปจนถึงเคมีสิ่งแวดล้อม
ในระยะหลังมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอนุมูลอิสระในเคมีปฏิกิริยาบรมีเนชันได้ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยปฏิกิริยาและตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ๆ นักวิจัยกำลังพัฒนาวิธีการเติมอะตอมบรมีนลงในโมเลกุลที่รวดเร็วและมีความจำเพาะมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนายาใหม่ วัสดุใหม่ และเทคโนโลยีที่เป็นไปไม่ได้เมื่อก่อน
การก้าวกระโดดครั้งสำคัญในปฏิกิริยาบิวรมีเนชันแบบฟรีรัดดิคัล คือ การค้นพบสภาวะปฏิกิริยาใหม่ที่มีความสำคัญต่อการเลือกจำเพาะของปฏิกิริยา โดยการปรับสภาวะปฏิกิริยา นักวิจัยสามารถกำหนดตำแหน่งที่เกิดบิวรมีเนชันภายในโมเลกุลได้ ซึ่งหมายความว่า Suru โครงสร้างของเอ็น-โบรโมซักซิไนมายด์ (N-bromo succinimide) สามารถสร้างสารประกอบที่มีโครงสร้างและวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถผลิตวัสดุ ยา และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีลักษณะใหม่ได้